NỘI DUNG TÓM TẮT
การเขียน Css
CSS (Cascading Style Sheets) เป็นภาษาที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบและสไตล์สำหรับเว็บไซต์ โดยเอาไว้ใช้ร่วมกับ HTML เพื่อกำหนดรูปแบบการแสดงผลของเนื้อหาต่างๆ ในเว็บไซต์ เช่น สีของตัวอักษร ขนาดตัวอักษร ลักษณะการเรียงลำดับและการจัดหน้า เป็นต้น
การเริ่มต้นการเขียน CSS
เพื่อเริ่มเขียน CSS คุณต้องสร้างไฟล์ CSS ที่มีนามสกุล .css และเพิ่มรหัส CSS ลงไปในไฟล์นั้น นอกจากนี้คุณยังต้องเชื่อมต่อไฟล์ CSS กับเอกสาร HTML ของคุณ โดยใช้แท็ก ในส่วนหัวของเอกสาร HTML
ลักษณะของไซต์และรูปแบบการออกแบบ
การกำหนดรูปแบบของเว็บไซต์โดยใช้ CSS ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งลักษณะทั่วไปของเว็บไซต์ได้อย่างหลากหลาย คุณสามารถเลือกใช้รูปแบบต่างๆ เช่น แบบเรียงลำดับเรียงเมนูหน้าเว็บ การจัดหน้าแบบเต็มหน้าจอหรือแบบฟอร์มข้อมูล และอื่นๆ นอกจากรูปแบบเหล่านี้คุณยังสามารถกำหนดลักษณะทางเป้าหมายของเนื้อหาแต่ละส่วน เช่น ขนาดตัวอักษร เส้นขอบของข้อความ สีพื้นหลัง และมากมายอีก
เลือกใช้เลือกคลาสและไอดีใน CSS
ใน CSS คุณสามารถใช้เลือกคลาสและไอดีเพื่อเป้าหมายถึงเอกสาร HTML เพื่อใส่รูปแบบสไตล์ลงไป คลาสมักถูกใช้ในกรณีที่คุณต้องการใช้รูปแบบเดียวกันกับองค์ประกอบหลายๆ องค์ประกอบ ในขณะที่ไอดีมักใช้เมื่อคุณต้องการอ้างถึงองค์ประกอบเดียวกันที่ทำหน้าที่ต่างกันในหน้าเว็บ ในการใช้ตัวเลือกคลาสและไอดีคุณอาจใช้เครื่องหมายจุด (.) และเครื่องหมายตกใจ (#) ตามลำดับ เพื่อระบุคลาสและไอดี
การใช้งานเลเยอร์ใน CSS
การใช้งานเลเยอร์ใน CSS ช่วยให้คุณสามารถกำหนดรูปแบบสไตล์เพิ่มเติมให้กับเนื้อหาบนหน้าเว็บได้อีกเล่มเครื่อง เลเยอร์ใน CSS เป็นองค์ประกอบที่ซ้อนกันและจับคู่กับองค์ประกอบหลักของเอกสาร HTML และสามารถใส่รูปแบบของสไตล์เพิ่มเติมให้กับเนื้อหาที่อยู่ภายใต้เลเยอร์
การปรับแต่งสีและพื้นหลังใน CSS
ใน CSS คุณสามารถจัดการสีและพื้นหลังต่างๆ ให้กับเงา ส่วนต่างๆ ด้วยการใช้รูปแบบสไตล์สีและรูปแบบสำหรับพื้นหลัง เช่น background-color, color, background-image, background-position, background-repeat เป็นต้น คุณสามารถเลือกสีโดยใช้โค้ดสีเองหรือใช้รูปแบบสีที่มีอยู่แล้วใน CSS อีกทั้งยังสามารถกำหนดค่าพื้นหลังขององค์ประกอบด้วยภาพหรือรูปแบบสีเพิ่มเติมได้อีกด้วย
การจัดหน้าและการวางลักษณะ
ใน CSS คุณสามารถใช้รูปแบบสไตล์เพื่อจัดหน้าและวางลักษณะที่ใช้ในเอกสาร HTML ของคุณ คุณสามารถกำหนดความกว้างและความสูงขององค์ประกอบ ตำแหน่งในหน้าเว็บ และระยะห่างระหว่างองค์ประกอบ นอกจากนี้คุณยังสามารถกำหนดให้เนื้อหาอยู่กึ่งกลางหน้าเว็บหรือจัดวางขอบเขตโดยใช้สไตล์เส้นขอบหรือกล่องใน CSS
การสร้างและใช้ช่องขนาดและขวางใน CSS
CSS ให้คุณสร้างและกำหนดขนาดของช่องที่มีข้อกำหนดเฉพาะ คุณสามารถกำหนดความกว้าง ความสูง ระยะห่างในระหว่างช่อง ระยะขอบภายในช่อง และอื่นๆ ได้ตามต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ตัวยึดใน CSS เพื่อตั้งค่าตำแหน่งขององค์ประกอบที่อยู่ในช่อง
การจัดการกับตารางใน CSS
ใช้ CSS ในการจัดรูปแบบและกำหนดรูปแบบให้กับตาราง คุณสามารถกำหนดความกว้างของเซลล์และแถว สีพื้นหลังของเซลล์ ลักษณะการแสดงผลของตาราง รวมถึงการเพิ่มและลดขอบของตารางด้วย CSS คุณยังสามารถใช้เลเยอร์ใน CSS เพื่อกำหนดรูปแบบสไตล์เพิ่มเติมกับเนื้อหาของเซลล์
พื้นที่ขีด จำกัด เวลา และการหน้าแสดงผลอื่น ๆ
แสดงผลส่วนอื่น ๆ ของการใช้ CSS คุณสามารถกำหนดพื้นที่ขีดจำกัดสำหรับเอกสาร HTML ของคุณ เพื่อให้เกิดการพิมพ์ในหน้าของเว็บไซต์ที่ดีขึ้นคุณยังสามารถกำหนดเวลาในการแสดงผลเพื่อทำให้เนื้อหาปรากฏและหายไปโดยอัตโนมัติคุณยังสามารถกำหนดรูปแบบการแสดงผลให้กับลิ้งค์ ปุ่ม และอื่นๆ ในเอกสาร HTML
การสร้างและปรับแต่งเอฟเฟกต์ใน CSS
หากคุณต้องการให้ส่วนต่างๆ ของเนื้อหาบนเว็บไซต์ได้รับความสนใจมากขึ้น CSS ยังให้คุณสร้างและปรับแต่งเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น เพลงพื้นหลัง ภาพเคลื่อนไหว การเปลี่ยนสี แสงสว่าง และเครื่องหมายดอลลาร์เป็นต้น CSS ช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์ที่น่าตื่นเต้นและน่าดึงดูดได้อีกเล่มเครื่อง
ตัวอย่างคำสั่ง CSS
นี่คือตัวอย่างของคำสั่ง CSS ที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของตัวอักษรและรูปแบบสำหรับพื้นหลัง:
ตัวอย่างการกำหนดลักษณะตัวอักษร:
p {
color: red;
font-family: Arial;
font-size: 16px;
}
ตัวอย่างการกำหนดลักษณะพื้นหลัง:
body {
background-color: lightblue;
background-image: url(‘background.jpg’);
background-repeat: no-repeat;
}
รูปแบบในการเขียน CSS
CSS มีรูปแบบในการเขียนที่เป็นทางการ คำสั่ง CSS จะเริ่มต้นด้วยชื่อที่ต้องการเปลี่ยนแปลง เช่น p หรือ body จากนั้นคุณจะต้องประกาศสไตล์ที่คุณต้องการให้กับองค์ประกอบนั้น รูปแบบในการเขียน CSS ขึ้นกับความยืดหยุ่นของเนื้อหาของคุณและวิธีที่คุณต้องการปรับแต่งรูปแบบนั้น
การใช้งาน CSS มีกี่วิธี?
การใช้งาน CSS มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความสะดวกและความถนัดของผู้ใช้ วิธ
มาหัดเขียน Css3 ที่ช่วยให้เว็บสวยขึ้น แบบไว ๆ ใน 10 นาที
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: การเขียน css ตัวอย่างคำสั่งcss, รูปแบบในการเขียน css, การใช้งาน css มีกี่วิธี, css มีกี่ประเภท อะไรบ้าง, Html กับ CSS ใช้งานร่วมกัน อย่างไร, css มีกี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย, CSS คือ, เรียกใช้ css ใน html
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การเขียน css

หมวดหมู่: Top 75 การเขียน Css
ดูเพิ่มเติมที่นี่: kientrucxaydungviet.net
ตัวอย่างคำสั่งCss
CSS (Cascading Style Sheets) เป็นภาษาที่ใช้สำหรับระบุรูปแบบและรูปทรงของเว็บไซต์ ด้วย CSS คุณสามารถปรับแต่งความสวยงามและรูปแบบของข้อความภายในเว็บไซต์ได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ CSS ยังช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบของเมนู การจัดหน้า สีพื้นหลัง ทรงตัวอักษร เวลาและหลายๆ อย่างอื่นๆ ตามที่คุณต้องการ
ในบทความนี้เราจะพาคุณรู้จักกับตัวอย่างคำสั่ง CSS ที่บ่งบอกถึงประเภทของการปรับแต่งที่เราสามารถทำได้ โดยเริ่มจากการเรียกใช้งานคำสั่ง CSS และทำความเข้าใจวิธีใช้โครงสร้างงาน Reference Selectors ต่างๆ ซึ่งจะจำเป็นต่อการเขียนคำสั่ง CSS ให้ถูกต้อง
1. การเรียกใช้งานคำสั่ง CSS
การเรียกใช้งานคำสั่ง CSS สามารถทำได้ในที่ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ที่ฝังในเอกสาร HTML ไปจนถึงไฟล์ภายนอกที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์
– ภายในเอกสาร HTML: คุณสามารถฝังคำสั่ง CSS บรรทัดละหลายๆ คำสั่งในตำแหน่งที่คุณต้องการ โดยใช้แท็ก
ยกตัวอย่างเช่น:
```html
Welcome to our website!
This is a paragraph.
```
- ภายใน HTML Attribute: คุณยังสามารถใช้ CSS ฝังไว้ใน HTML attribute ได้เช่นเดียวกัน โดยใช้แอตทริบิวต์ style เพื่อกำหนดรูปแบบอื่นๆ ให้กับองค์ประกอบต่างๆ ของเว็บไซต์
```html
This is a heading
This is a paragraph.
```
- ไฟล์ภายนอก: สุดท้ายเราสามารถสร้างไฟล์ที่เชื่อมต่อกับโค้ด HTML เพื่อสร้างสไตล์เว็บไซต์ส่วนหน้า โดยใช้นามสกุลไฟล์ .css และเรียกใช้งานจากเอกสาร HTML จากโค้ด ในส่วนของ
```html
Welcome to our website!
This is a paragraph.
```
2. การใช้งานโครงสร้างงาน Reference Selectors
ตอนนี้เรามาเข้าใจการใช้งาน Reference Selectors หรือเครื่องมือเพื่อระบุและเปลี่ยนแปลงรูปแบบขององค์ประกอบต่างๆ ของหน้าเว็บ ได้แก่:
- ธีม / Elements Selectors: ระบุและแก้ไขคุณสมบัติขององค์ประกอบหลักของสไตล์เว็บไซต์เช่น พื้นหลังสี เส้นขอบ และสีตัวอักษรเดียวกันสำหรับย่อหน้า
- คลาส Selectors: การใช้คลาสในแท็กของ HTML เพื่อระบุและปรับแต่งด้วย CSS โดยองค์ประกอบที่มีหน้าที่แตกต่างกันในหน้าเว็บเราสามารถกำหนดคลาสที่เหมือนกันเพื่อให้เป็นอิสระ
- ไอดี Selectors: การใช้ไอดีในแท็ก HTML เพื่อระบุความแตกต่างขององค์ประกอบ รูปแบบที่ไม่ซ้ำกันในหน้าเว็บ เช่น การตกแต่งข้อความเป็นสีแตกต่างกันระหว่างกล่องข่าวสารและสไลด์สวิตช์
ตัวอย่างคำสั่ง CSS เพื่อใช้กับชนิดเครื่องมือ Reference Selectors:
```css
/* เปลี่ยนสีพื้นหลังของเว็บไซต์ */
body {
background-color: lightblue;
}
/* ตั้งค่าสีข้อความในเว็บไซต์ */
h1 {
color: navy;
}
/* ปรับแต่งขอบพื้นหลังขององค์ประกอบต่างๆ ที่มีคลาสเป็น .info */
.info {
background-color: lightgrey;
padding: 20px;
border: 1px solid darkgrey;
}
/* เปลี่ยนแปลงรูปแบบสไลด์สวิตช์ */
#slide-switch {
width: 50px;
height: 50px;
background-color: red;
border-radius: 50%;
transition: background-color 0.3s ease;
}
#slide-switch:hover {
background-color: orange;
}
```
ในตัวอย่างข้างต้น เราใช้คำสั่ง CSS เพื่อปรับแต่งรูปแบบของส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ อาทิเช่น เปลี่ยนสีพื้นหลังให้เป็นสีฟ้าอ่อนในบริเวณของหน้าเว็บไซต์, ปรับแต่งสีข้อความหัวข้อให้เป็นสีเรืองทะเล, เปลี่ยนแบบเส้นขอบ, และอื่นๆ ไปจนถึงการปรับแต่งองค์ประกอบที่มีคลาสหรือไอดีที่เฉพาะเจาะจง
3. FAQs การใช้งาน CSS
คำถามที่พบบ่อยในการใช้งาน CSS มีดังนี้:
Q: จำเป็นต้องเรียกใช้งานคำสั่ง CSS ทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหน้าเว็บไซต์ใช่ไหม?
A: ไม่จำเป็น เมื่อคุณเพิ่มคำสั่ง CSS เข้ามาในเอกสาร HTML แล้ว สไตล์ที่กำหนดโดย CSS จะถูกปรับใช้กับเว็บไซต์ทั้งหมด
Q: เราสามารถใช้งาน CSS ในเว็บไซต์ที่มาจากเทมเพลตหรือฐานข้อมูลได้หรือไม่?
A: ได้ คุณสามารถแก้ไขรูปแบบเว็บไซต์ที่มาจากเทมเพลตหรือฐานข้อมูลได้โดยเพิ่มหรือแก้ไขคำสั่ง CSS ในเอกสาร HTML หรือไฟล์ CSS ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์
Q: ทำไม CSS ถึงมีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาเว็บไซต์?
A: CSS เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับแต่งและจัดรูปแบบเว็บไซต์ให้เป็นไปตามที่เราต้องการ และช่วยให้การดูแลรักษาเว็บไซต์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้อย่างง่ายดาย
Q: ต้องการจัดรูปแบบและปรับแต่งหลายองค์ประกอบมีวิธีการหรือเคล็ดลับใหนที่ควรรู้บ้าง?
A: การใช้คลาสและไอดีเป็นทางเลือกที่ดีในการระบุและปรับแต่งรูปแบบขององค์ประกอบที่มีหน้าที่แตกต่างกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้การแบ่งคลาส คลาสซ้อนทับการกำหนดค่าด้วยโปรแกรม CSS อื่นๆ ตลอดจนการใช้งานคำสั่ง CSS ที่มีให้มากมายพร้อม example code
Q: อะไรคือชนิดของคุณสมบัติที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วย CSS?
A: CSS ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง HTML และคุณสมบัติเชิงตรรกศาสตร์ของหน้าเว็บ เช่น การสร้างฟอร์มโดยใช้ input fields และการจัดการกับฐานข้อมูล
ในบทความนี้เราได้รู้จักถึงตัวอย่างคำสั่ง CSS และการใช้งานโครงสร้างงาน Reference Selectors ที่จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบและรูปแบบของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างอิสระ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ว่า CSS เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์และยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ใช้ในการปรับแต่งรูปแบบเว็บไซต์เพื่อความสวยงามและประสบการณ์ของผู้ใช้
รูปแบบในการเขียน Css
CSS (Cascading Style Sheets) เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนรูปแบบหน้าเว็บเพื่อให้นักพัฒนาเว็บสามารถควบคุมการแสดงผลและการจัดวางของเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้จะเสนอแนวทางการเขียน CSS ให้เป็นรูปแบบที่เรียบเรียง เข้าใจง่าย และสามารถซ้ำใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังจะมีส่วนของคำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions) ไว้ที่ส่วนท้ายของบทความ เพื่อให้นักพัฒนาเว็บได้ตอบคำถามสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการอ่าน
รูปแบบหลักในการเขียน CSS แบ่งเป็นสามส่วนหลักๆ คือ ลักษณะเลือกตัวอักษร (Selector), คุณสมบัติ (Properties), และค่า (Values) ดังนั้นในการเขียน CSS ควรจะประกอบไปด้วยส่วนที่เกี่ยวข้องของทั้งสามส่วนนี้อย่างเหมาะสม
ลักษณะเลือกตัวอักษร (Selector)
ลักษณะเลือกตัวอักษร (Selector) เป็นส่วนที่ใช้เพื่อระบุว่า CSS ควรจะถูกใช้บน HTML elements ใด ตัวเลือกตัวอักษรสามารถเลือกได้ทั้งตามชื่อ tag, class, ID หรือ attribute ของ elements ตัวลักษณะเลือกตัวอักษรสามารถระบุได้โดยใช้ตัวไดอะแกรมซึ่งคั่นแต่ละส่วนด้วยช่องว่าง (space) ซึ่งจะหมายถึงการเลือก elements ที่อยู่ภายใน elements หรือก็คือ elements ซ้อนเรียงกัน
ตัวอย่างการใช้เลือกตัวอักษร:
- Tag Selector: p { color: blue; }
- Class Selector: .header { font-size: 18px; }
- ID Selector: #main-title { font-weight: bold; }
- Attribute Selector: input[type="text"] { background-color: lightgrey; }
คุณสมบัติ (Properties)
คุณสมบัติ (Properties) เป็นส่วนที่ใช้ในการระบุสมบัติหรือลักษณะต่างๆ ของ elements ที่ถูกเลือกตาม Selector คุณสมบัติสามารถกำหนดค่าผ่านเป็นค่าคงที่ (keywords) หรือค่าแบบกำหนดเอง (values) เช่น สีพื้นหลัง (background-color), ขนาดตัวอักษร (font-size), หรือระยะห่าง (margin)
ตัวอย่างคุณสมบัติ:
- background-color: red;
- font-size: 24px;
- margin: 10px;
ค่า (Values)
ค่า (Values) เป็นส่วนที่ใช้ระบุค่าที่ต้องการของคุณสมบัติที่เลือกไว้ ค่าของคุณสมบัตินั้นสามารถเป็นค่าคงที่ (keywords) หรือค่าที่กำหนดเอง (values) ได้ โดยบางครั้งค่าที่กำหนดเงื่อนไข (conditional values) ก็สามารถนำมาใช้ได้
ตัวอย่างค่า:
- red (คำสำหรับพื้นหลังสีแดง)
- 24px (ขนาดตัวอักษร 24 pixels)
- 10px (ระยะห่าง 10 pixels)
การเรียกใช้ CSS
เพื่อที่จะใช้งาน CSS และใช้รูปแบบที่เขียนไว้บนเว็บเพจ เราสามารถเรียกใช้ CSS files ที่มีการเขียนรูปแบบ CSS โดยใช้สำหรับตัวอย่างการเรียกใช้งาน CSS นี้ไปประกอบด้วย HTML code ดังนี้:
```
Hello, World!
Welcome to my website.
```
ในตัวอย่างด้านบน เราใช้ข้อมูลการเรียกใช้ CSS ผ่านการเลือกเอามาใช้งานจากไฟล์ชื่อ styles.css ที่เขียนไว้แล้ว โดยผลลัพธ์เป็นการแสดงผลข้อความ "Hello, World!" รวมถึงข้อความ "Welcome to my website."
==============================================================================
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. CSS คืออะไร?
CSS เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียนรูปแบบหน้าเว็บ เพื่อทำให้นักพัฒนาสามารถควบคุมการแสดงผลและการจัดวางของเนื้อหาได้อย่างแม่นยำ
2. การเลือกตัวอักษรใน CSS ทำอย่างไร?
ใน CSS เราใช้ลักษณะเลือกตัวอักษร (Selector) เพื่อระบุว่า CSS ควรจะถูกใช้บน elements ไหน ลักษณะเลือกตัวอักษรสามารถเลือก elements ตามชื่อ tag, class, ID, หรือ attribute ของ elements
3. ฉันสามารถกำหนดสร้างคุณสมบัติใด ๆ ของ elements ด้วย CSS ได้อย่างไร?
เราสามารถกำหนดคุณสมบัติของ elements ได้โดยใช้คำสั่งในรูปแบบ "property: value;" เช่น background-color: red;
4. ฉันจะซ่อน elements บนหน้าเว็บด้วย CSS ได้อย่างไร?
เราสามารถใช้คุณสมบัติ display เพื่อซ่อน elements ได้ เช่น display: none;
5. การใช้ inline CSS และ external CSS คืออะไร?
Inline CSS เป็นการใส่รูปแบบ CSS ลงใน HTML Tag ตามตัวอย่างนี้:
```
This is a blue paragraph.
```
External CSS เป็นการสร้างไฟล์ CSS แยกออกมาจาก HTML โดยใช้แท็ก เพื่อเชื่อมโยงกับไฟล์ CSS ที่คัดลอกไว้ เช่น:
```
```
โดยการใช้งาน External CSS จะทำให้สามารถใช้ style ที่เดียวกันได้กับหลาย HTML pages
6. มีคำสั่งอื่น ๆ ใน CSS ที่น่าสนใจอีกหรือไม่?
ใน CSS ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น สร้างการเคลื่อนไหวด้วย @keyframes, การใช้งานปรับแต่งกับ Flexbox และ Grid Layout, การปรับแต่งสีด้วย RGBA หรือ HSLA, ปรับแต่งการแสดงผลบนอุปกรณ์พกพา (Responsive Design), และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามในบทความนี้เราได้สรุปเกี่ยวกับรูปแบบในการเขียน CSS ที่เป็นรูปแบบที่เรียบเรียง เข้าใจง่าย และสามารถซ้ำใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้นักพัฒนาเว็บได้นำไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาเว็บไซต์ของตน
คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง
- CSS Selector: คำสั่งดีดเลือกตัวอักษรใน CSS
- CSS Properties: คำสั่งดีดคุณสมบัติใน CSS
- การใช้คำสั่ง CSS แบบ Inline และ External
- การใช้ Media Queries ใน Responsive Design
- สร้างการเคลื่อนไหวด้วย CSS @keyframes
- CSS Flexbox และ CSS Grid Layout
ผู้อ่านสามารถทดลองเขียนและปรับแต่งรูปแบบ CSS ตามหัวข้อที่ให้ได้เป็นการฝึกฝนทักษะและความเข้าใจของตนเองในการใช้งาน CSS
พบ 45 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การเขียน css.
![การเขียน CSS ใน 3 รูปแบบ [Article ID : 195] การเขียน Css ใน 3 รูปแบบ [Article Id : 195]](https://www.dwthai.com/img-article/css/css_3_3.gif)
![การเขียน CSS ใน 3 รูปแบบ [Article ID : 195] การเขียน Css ใน 3 รูปแบบ [Article Id : 195]](https://www.dwthai.com/img-article/css/css_3_4.gif)
![เริ่มต้นเขียนและใช้งาน CSS กันเสียที ! [Article ID : 199] เริ่มต้นเขียนและใช้งาน Css กันเสียที ! [Article Id : 199]](https://www.dwthai.com/img-article/css/7_2.gif)

![เริ่มต้นเขียนและใช้งาน CSS กันเสียที ! [Article ID : 199] เริ่มต้นเขียนและใช้งาน Css กันเสียที ! [Article Id : 199]](https://www.dwthai.com/img-article/css/7_1.gif)


![CSS Selectors เบื้องต้น ในรูปแบบพื้นฐานที่ควรรู้ [Article ID : 197] Css Selectors เบื้องต้น ในรูปแบบพื้นฐานที่ควรรู้ [Article Id : 197]](https://www.dwthai.com/img-article/css/css-selector.png)



![Layout เว็บเพจด้วย CSS Step 2 [Article ID : 202] Layout เว็บเพจด้วย Css Step 2 [Article Id : 202]](https://www.dwthai.com/img-article/css/10_1.gif)



![รูปแบบไวยากรณ์ของ CSS เบื้องต้น [Article ID : 196] รูปแบบไวยากรณ์ของ Css เบื้องต้น [Article Id : 196]](https://www.dwthai.com/img-article/css/css_4_2.gif)















![การแปลง CSS ในแบบ Inline Style Sheet ให้เป็น Internal หรือ External Style Sheet [Article ID : 214] การแปลง Css ในแบบ Inline Style Sheet ให้เป็น Internal หรือ External Style Sheet [Article Id : 214]](https://www.dwthai.com/img-article/dw-trick/inline-css-4.png)


















ลิงค์บทความ: การเขียน css.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ การเขียน css.
- เริ่มต้นด้วย HTML + CSS - W3C
- เขียน CSS ในลักษณะต่างๆ - ThaiCSS
- การเขียน CSS ใน 3 รูปแบบ [Article ID : 195] - DwThai.Com
- 3 วิธี ทำให้เว็บน่าสนใจขึ้น โดยการกำหนดรูปแบบ Style html ด้วย css
- 12 ข้อแนะนำการเขียน CSS ที่ดีสำหรับมือใหม่ - Coding Thailand
- ตกแต่งด้วย CSS - Code-TH.com
- CSS เบื้องต้น - Kontentblue
- CSS Guideline - เปิดตำราสอนเทคนิคเขียน CSS อย่างมืออาชีพ
ดูเพิ่มเติม: https://kientrucxaydungviet.net/category/innovative-cities/