NỘI DUNG TÓM TẮT
เขียน Android
การเขียนแอนดรอยด์มีขั้นตอนหลักที่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม เริ่มต้นด้วยการเตรียมความพร้อมในการเขียนแอนดรอยด์ นั่นคือการทำความเข้าใจและศึกษาเครื่องมือและภาษาที่ใช้ในการพัฒนา เพื่อให้สามารถเขียนแอพพลิเคชันแอนดรอยด์ได้อย่างมืออาชีพ
1. แนะนำเครื่องมือและภาษาที่ใช้ในการเขียนแอนดรอยด์
เครื่องมือและภาษาที่ใช้ในการเขียนแอนดรอยด์มีหลายประเภท แต่เครื่องมือและภาษาที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายคือ Android Studio ซึ่งเป็น IDE (Integrated Development Environment) ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้อย่างง่ายดาย Android Studio มีฟีเจอร์และเครื่องมือที่ช่วยในการเขียนแอพพลิเคชัน เช่น ตัวแก้ไขโค้ด, ตัวสร้างหน้าจอ, ตัวทดสอบแอพพลิเคชัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีภาษา Java ที่ใช้กับ Android Studio ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน นักพัฒนาสามารถใช้ภาษา Kotlin แทนได้
2. สร้างโครงสร้างของแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
การสร้างโครงสร้างของแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โครงสร้างของแอปพลิเคชันประกอบด้วยหน้า XML และไฟล์ Java โครงสร้างของหน้าจอหลักออกแบบและสร้างขึ้นโดยใช้ไฟล์ XML ซึ่งสามารถกำหนดรูปแบบและปรับแต่งลักษณะหน้าจอได้อย่างเหมาะสม ส่วนไฟล์ Java แสดงรหัสที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของแอปพลิเคชัน
3. การออกแบบและจัดรูปแบบหน้าจอในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
การออกแบบและจัดรูปแบบหน้าจอในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้งานได้อย่างง่ายและเข้าใจได้ในเวลาสั้น ออกแบบหน้าจอควรมีความคล้ายคลึงกับกราฟิกและการออกแบบอินเทอร์เฟซเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกในการใช้แอปพลิเคชัน
4. การโหลดและจัดการข้อมูลในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
การโหลดและจัดการข้อมูลในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชัน นักพัฒนาสามารถใช้ตัวควบคุมการโหลดข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การใช้ API ในการโหลดข้อมูลจากเว็บเซอร์วิส การจัดการฐานข้อมูลเพื่อเก็บข้อมูลของผู้ใช้งาน เป็นต้น
5. การทำงานกับการประมวลผลและกล้องในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
การทำงานกับการประมวลผลและกล้องในแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เป็นฟังก์ชันที่นักพัฒนาสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ดีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การใช้งานกล้องสำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอ การประมวลผลรูปภาพ เป็นต้น
6. การทดสอบและปรับปรุงแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
การทดสอบและปรับปรุงแอปพลิเคชันแอนดรอยด์เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการพัฒนาแอปพลิเคชัน การทดสอบจะช่วยให้นักพัฒนาแก้ไขข้อผิดพลาดหรือปัญหาการทำงานของแอปพลิเคชัน โดยการทำงานในรูปแบบที่แท้จริงบนอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่มีคุณภาพ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาทักษะในการพัฒนาแอปพลิเคชันแอนดรอยด์
FAQs:
Q: เขียน app android ใช้โปรแกรมอะไร?
A: สำหรับการเขียนแอปพลิเคชันแอนดรอยด์คุณสามารถใช้โปรแกรม Android Studio ที่เป็นเครื่องมือพัฒนาอย่างเป็นทางการจาก Google ซึ่งสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันแอนดรอยด์อย่างครอบคลุม
Q: สร้างแอพ สําเร็จรูป ฟรีได้ที่ไหน?
A: คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันแอนดรอยด์โดยใช้ Android Studio ที่มีบริการฟรีและออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
Q: เรียนเขียนแอพ Androidเขียน android?
A: หากคุณต้องการเรียนรู้การเขียนแอนดรอยด์ คุณสามารถเรียนรู้ผ่านหลักสูตรออนไลน์หรือหนังสือที่มีจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับนักพัฒนาอื่น ๆ ได้
Q: คู่มือ Android Studio ภาษาไทย PDF มีที่ไหนสามารถดาวน์โหลดได้?
A: คุณสามารถค้นหาและดาวน์โหลดคู่มือ Android Studio ภาษาไทยในรูปแบบ PDF ได้จากเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง เช่นเว็บไซต์ของ Android Developer หรือเว็บไซต์การเรียนออนไลน์
Q: โปรแกรมเขียนแอพมือถือ Android มีอะไรบ้าง?
A: นอกจาก Android Studio ที่เป็นเครื่องมือพัฒนาแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ที่ได้อธิบายไปแล้ว ยังมีโปรแกรมเขียนแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่สามารถใช้สร้างแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้ เช่น Unity, Xamarin, PhoneGap, Cordova เป็นต้น
เขียนแอนดรอยด์ถือเป็นทักษะที่มีความสำคัญในการพัฒนาแอปพลิเคชันสมัยใหม่ นักพัฒนาสามารถศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือและภาษาที่ใช้ในการพัฒนา และสามารถสร้างแอปพลิเคชันแอนดรอยด์ได้อย่างมืออาชีพและนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างแอปบน Android ง่าย ๆ ! ไม่ต้องเขียนโค้ด !!
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: เขียน android เขียน app android ใช้โปรแกรมอะไร, สร้างแอพ สําเร็จรูป ฟรี, เขียนแอพ android studio, คู่มือ android studio ภาษาไทย pdf, โปรแกรมเขียนแอพ android, โปรแกรมเขียนแอพมือถือ, เขียนแอพ ใช้โปรแกรมอะไร, เรียนเขียน แอ พ Android
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียน android
หมวดหมู่: Top 59 เขียน Android
ดูเพิ่มเติมที่นี่: kientrucxaydungviet.net
เขียน App Android ใช้โปรแกรมอะไร
ในยุคที่เรามีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือกันแทบทุกคน การพัฒนาแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ Android ก็กลายเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้พัฒนาต้องสนใจอย่างสูงสุด เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่ดีได้
ในบทความนี้ เราจะแนะนำจำนวนโปรแกรมที่ใช้ในการเขียนแอปพลิเคชัน Android โดยละเอียด เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละผู้พัฒนา โดยพูดถึงคุณสมบัติ การใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย และปัญหาที่เกิดขึ้นรวมทั้งอย่างหลังกับแต่ละโปรแกรมนั้นๆ
1. Android Studio
เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android จากทีมงานของ Google โดยมีชุดเครื่องมือและฟังก์ชันทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อการพัฒนา รวมถึงการจำลองและทดสอบแอปพลิเคชันแบบ real-time โดยใช้เทคโนโลยี Emulator ที่ทันสมัย อีกทั้งยังสนับสนุนภาษา Kotlin ที่เป็นภาษาหลักในการพัฒนา
– คุณสมบัติ: ปรับแต่งตามความต้องการของแต่ละโปรเจกต์ รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน อื่นๆ
– ข้อดี: ใช้งานฟรี มีเอกสารและคอมมูนิตี้ที่อัพเดทอยู่เสมอ มีชุดคำสั่งที่แม่นยำและความเสถียรสูง
– ข้อเสีย: การใช้งานที่ซับซ้อน และต้องใช้ความรู้พื้นฐานการเขียนโปรแกรม
2. Eclipse
เป็นแอนอีกโปรแกรมสำหรับพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีฟีเจอร์การทำงานที่ครอบคลุมและทำงานได้อย่างเสถียร ใน EPD หรือ Eclipse Plugin Development Environment ยังสนับสนุนการพัฒนาปลั๊กอินและเครื่องมือโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Android Development Tools (ADT) หรือตัวจำลองแอปพลิเคชันสำหรับการทดสอบ
– คุณสมบัติ: มีเครื่องมือสำหรับการพัฒนาที่หลากหลาย รวมถึงภาษา Java เป็นภาษาหลัก
– ข้อดี: ใช้งานฟรี มีเอกสารและคอมมูนิตี้มากมาย มีชุดคำสั่งที่แม่นยำ
– ข้อเสีย: มีลักษณะการใช้งานที่ซับซ้อน เพื่อนำเสนอสมรรถนะที่สูง
3. IntelliJ IDEA
เป็นโปรแกรมพัฒนาแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันในหลายแพลตฟอร์มที่เป็นภาษา Java หรือ Kotlin โดยเฉพาะ ซึ่งรองรับการพัฒนาซอฟท์แวร์ และพัฒนาโปรแกรมในเส้นทางการทำงานที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ
– คุณสมบัติ: มีเครื่องมือกำหนดชนิดข้อมูลและการย้ายรูปแบบที่สูง รวมถึงการสร้างโปรแกรมอีเวนต์และการลงชื่อตัวแปรอัตโนมัติ
– ข้อดี: มีความคล้ายคลึงกับ Android Studio และมีคุณภาพที่ดีในการปรับแต่ง มีความเสถียรและประสิทธิภาพที่สูง
– ข้อเสีย: มีขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่าทั่วไป
4. Visual Studio Code
เป็นโปรแกรมแก้ไขข้อผิดพลาดและรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันบนหลัก HTML, CSS, JavaScript, และภาษาอื่นๆ รวมถึงโปรแกรม Android ด้วย
– คุณสมบัติ: สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดและแนะนำวิธีแก้ไขให้ได้ รวมถึงเครื่องมือการเขียนโค้ดและเอมูเลเตอร์
– ข้อดี: ใช้งานฟรี เล็กกระทัดรัดและพร้อมที่จะใช้งาน
– ข้อเสีย: มีความซับซ้อนในการปรับแต่งและคอมมูนิตี้ที่จำกัด
—————————————————————————
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q: เราควรเลือกใช้โปรแกรมใดสำหรับการเขียนแอปพลิเคชัน Android?
A: การตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมเกี่ยวกับการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ขึ้นอยู่กับความต้องการและประสิทธิภาพต่างๆ ที่คุณต้องการ โดยอิงมาจากคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสม สามารถทดลองใช้และเปรียบเทียบเครื่องมือต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ
Q: โปรแกรมแบบใดที่เหมาะกับผู้พัฒนาที่มีความชำนาญน้อย?
A: Android Studio เป็นโปรแกรมที่เหมาะสำหรับผู้พัฒนาที่มีความชำนาญน้อย มีคู่มือการใช้งานและคอมมูนิตี้ที่มีอยู่มากมายที่สามารถใช้ในการเรียนรู้
Q: นอกจากโปรแกรมที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีโปรแกรมใดที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android อีกบ้างหรือไม่?
A: ยังมีโปรแกรมอื่นๆ ที่คุณสามารถพิจารณาอ่านเพิ่มเติมได้ เช่น React Native, Xamarin, Cordova, และ PhoneGap เพื่อเขียนแอปพลิเคชันที่ใช้ร่วมกันทั้ง iOS และ Android
Q: ผมสามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน Android โดยใช้ภาษาอื่นๆ นอกเหนือจาก Java หรือ Kotlin ได้หรือไม่?
A: ใช่ คุณสามารถใช้เช่นภาษา C++ หรือ Python ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ได้โดยใช้ Android NDK (Native Development Kit) ซึ่งต้องคอมไพล์และผูกพันกับ Java นอกจากนี้ยังสามารถใช้ React Native หรือ Flutter เขียนแอปพลิเคชันแบบเครื่องหมายสร้างหน้าจอนั้นๆ โดยไม่ต้องใช้ภาษา Java หรือ Kotlin
Q: การพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมหรือไม่?
A: ใช่ การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมจะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android อย่างถูกต้อง แต่หากคุณมีความเข้าใจในหลักการเช่นการควบคุมการทำงานของแอปพลิเคชันหรืออัลกอริทึม คุณก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานการเขียนโปรแกรมได้ในขณะที่คุณพัฒนาแอปพลิเคชัน
ผลลัพธ์ของการเลือกใช้โปรแกรมในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Android ขึ้นอยู่กับความชำนาญและความคุ้นเคยของผู้พัฒนา ความต้องการโปรแกรมที่แตกต่างกัน และความสะดวกในการใช้งานของแต่ละโปรแกรม ให้ทำความเข้าใจและทดลองใช้โปรแกรมต่างๆ เพื่อตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
สร้างแอพ สําเร็จรูป ฟรี
ในปัจจุบันนี้การพัฒนาแอพพลิเคชัน (Application) ได้กลายเป็นสิ่งที่ก้าวหน้าและสำคัญมากในชีวิตประจำวันของเรา การใช้แอพพลิเคชันเป็นสื่อที่สำคัญในการเชื่อมต่อทางสังคม การจัดการธุรกิจ การเรียนรู้ และข้อมูลต่างๆ แอพพลิเคชันที่มีคุณภาพและถูกพัฒนาอย่างเหมาะสมสามารถเสริมสร้างประสบการณ์ส่วนตัวและการทำงานของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการสร้างแอพพลิเคชันสําเร็จรูปฟรี พร้อมกับคําแนะนําและขั้นตอนเบื้องต้นที่คุณสามารถทําได้เอง
ขั้นแรกในการสร้างแอพพลิเคชันสําเร็จรูปฟรีคือการตั้งค่าช่องงาน (Framework) ที่เหมาะสม สําหรับผู้ที่ไม่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม หรือการใช้งานเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชัน หรือหากคุณมีเวลาน้อยและต้องการที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาแอพพลิเคชันได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น ผู้พัฒนาแอพพลิเคชันที่ใช้งานฟรีที่แตกต่างกันบ่อยคือ “Ionic”, “React Native” และ “Flutter” โดยเฉพาะ
1. ionic:
Ionic เป็นเครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากภาษา HTML, CSS, และ JavaScript ที่ช่วยให้การสร้างแอพพลิเคชันมอบความยืดหยุ่นและความสามารถสูงสุด โดยสามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เช่นเดียวกับ Desktop
2. React Native:
React Native เป็นชุดเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นมาจาก React.js ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักพัฒนาที่มีความรู้และที่เกี่ยวข้องกับภาษา JavaScript การพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย React Native สามารถใช้งานได้ทั้งบน iOS และ Android
3. Flutter:
Flutter เป็นตัวเลือกที่เพิ่มคุณภาพและความพิเศษสำหรับการสร้างแอพพลิเคชันโดยใช้ภาษาโจทย์ของตน ภาษานี้มีคุณสมบัติที่ทำให้การสร้าง UI (User Interface) และการทดสอบแยกต่างหากจากสิ่งอื่นทั่วไป
หลังจากที่คุณได้เลือกช่องงานที่เหมาะสมแล้ว ต่อไปคุณต้องเตรียมพื้นฐานความรู้และทักษะที่จำเป็นในการสร้างและพัฒนาแอพพลิเคชัน
1. ภาษาโปรแกรม:
การเรียนรู้ภาษาโปรแกรมเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างแอพพลิเคชัน การเลือกภาษาโปรแกรมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การพัฒนาแอพพลิเคชันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
2. การออกแบบธีมและการตั้งค่า:
รูปแบบและการออกแบบธีม (Theme) ของแอพพลิเคชันจะเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญในการทําให้ประสบการณ์ของผู้ใช้งานดีขึ้น คุณสามารถนําธีมที่สร้างเองหรือใช้ธีมพรีเซ็ตที่มีอยู่อย่างกว้างขวางในไลบรารีต่างๆ ในแต่ละช่องงาน
3. การเชื่อมต่อฐานข้อมูล:
การเชื่อมต่อฐานข้อมูลเป็นสิ่งสําคัญในการเก็บข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลของแอพพลิเคชัน คุณต้องทําความเข้าใจและเลือกวิธีเชื่อมต่อฐานข้อมูลที่เหมาะสมกับแอพพลิเคชันที่กําลังพัฒนา
เมื่อคุณได้ทําความเข้าใจและมีพื้นฐานในการพัฒนาแอพพลิเคชันแล้ว ต่อไปคุณสามารถเริ่มต้นสร้างแอพของคุณได้เลย
1. การตั้งค่าโครงสร้างโปรเจ็กต์:
เมื่อคุณเริ่มสร้างแอพพลิเคชันแบบฟรี ขั้นแรกคือการสร้างโครงสร้างของโปรเจ็กต์ โดยเลือกใช้ช่องงาน และติดตั้งโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง
2. ติดตั้งและมอบหมายค่าของธีม:
คุณต้องติดตั้งและมอบหมายค่าให้แก่ธีมเพื่อกำหนดรูปแบบและสีของแอพพลิเคชันของคุณ
3. สร้าง UI:
การสร้าง User Interface (UI) หรือหน้าจอในแอพพลิเคชันของคุณเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน คุณต้องตัดสินใจว่านําเข้าใช้งานของแอพพลิเคชันของคุณจะมีรูปแบบอย่างไร เช่น ปุ่มกด ฟอร์มข้อมูล หรือแถบเมนู คุณสามารถสร้าง UI ได้ในรูปแบบของไฟล์ HTML, CSS และ JavaScript
4. เขียนโค้ดและทดสอบ:
เนื่องจากคุณได้ทําศึกษาและทําความเข้าใจในขั้นตอนและขั้นตอนการพัฒส์แอพพลิเคชันแล้ว คุณสามารถใช้ความรู้ของคุณในการเขียนโค้ดและทดสอบแอพพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมา
FAQs:
Q1: สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแอพพลิเคชันมือใหม่ ควรเริ่มต้นจากภาษาโปรแกรมใด?
A1: สำหรับผู้ที่เริ่มต้นและไม่มีพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม ภาษา JavaScript เป็นภาษาที่ควรเริ่มต้น เนื่องจากมีชุดเครื่องมือที่ผู้เริ่มต้นสามารถใช้งานได้ง่ายและมีความยืดหยุ่น
Q2: สารานุกรมใดเป็นที่แนะนำสำหรับธีมและสกิน?
A2: คุณสามารถค้นหารายชื่อและรายละเอียดของธีมและสกินที่ตรงกับความต้องการของคุณในโครงการของคุณ การใช้งานรูปแบบธีมที่อยู่ในรูปแบบของไลบรารีเป็นที่แนะนำ
Q3: ฐานข้อมูลใดที่เหมาะสมสำหรับแอพพลิเคชันหน้าเว็บ?
A3: การเลือกฐานข้อมูลขึ้นอยู่กับความต้องการของแอพพลิเคชันของคุณและความเข้ากันได้กับช่องงานที่เลือก เพื่อแอพพลิเคชันหน้าเว็บ โปรแกรม MySQL กับ PostgreSQL เป็นความสมบูรณ์และเป็นที่นิยมกันมาก
การสร้างแอพพลิเคชันสําเร็จรูปฟรีอาจจะเป็นงานที่ท้าทายสำหรับบางคน แต่การมีความรู้และการเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอจะช่วยให้คุณสามารถเรียนรู้และทดลองสร้างแอพพลิเคชันของคุณได้อย่างเร็วขึ้น ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ที่มีความยืดหยุ่นและดีในการสร้างแอพพลิเคชันคุณสามารถสร้างแอพพลิเคชันที่มีคุณภาพสูงได้อย่างเหมาะสมและก้าวหน้า
พบ 19 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เขียน android.
ลิงค์บทความ: เขียน android.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ เขียน android.
- เขียนแอพแอนดรอยด์ตั้งแต่เริ่มต้น ตอนที่ 1 – Ascend Developers
- สอนการพัฒนาแอป Android – Android Developers
- แนวทางสำหรับการเริ่มต้นเขียน Android App – Akexorcist
- Android Tutorials – สอน Android App ฟรี เขียนโปรแกรมแอนดรอยด์ …
- เรียนรู้วิธีเขียนโค้ดแอปสำหรับ iOS และ Android | อันโดรโม – Andromo
- โปรแกรมเขียน Android – ซอฟต์แวร์ (Software)
- ใครอยากเขียน App Android เป็นเชิญอ่านทางนี้ครับ ง่ายมากเลย …
- เขียนแอพบน Android อย่างง่าย โดยไม่ต้องเขียนโค้ด – SkillLane
- เริ่มต้นสร้าง Android Application พื้นฐานด้วย Android Studio (Lab …
ดูเพิ่มเติม: blog https://kientrucxaydungviet.net/category/innovative-cities